ตอนที่ 690 ยังไม่กลับมาจนกระทั่งตอนนี้
สายตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความขยะแขยงและไม่แยแส เมื่อฟินนิคเห็นดังนั้นเขาก็พูดออกมาอย่างไร้อารมณ์ว่า “คุณไม่มีค่า พอที่จะเปรียบเทียบกับวิเวียน คุณไม่เคยเทียบเธอได้เลย ไม่มีส่วนไหนในตัวคุณที่จะอยู่เหนือเธอได้”
จากนั้นฟินนิคก็ยกถังน้ําขึ้นมาและเดินกลับไปที่บ่อ เขาตักน้ํามาอีกทั้งก่อนที่จะเดินกลับไป เขาทําทั้งหมดนี้โดยที่ไม่ได้เหลือบ
มองชาร์ล็อคเลยแม้แต่นิดเดียว
เมื่อเห็นฟินนิคจากไปโดยที่ไม่สนใจเธอ ชาร์ล็อตก็ถึงกับเข่าอ่อน ล้มตัวลงนั่งยองๆ และก้มหน้าลงไหล่ของเธอสั่นอย่างรุนแรง ขณะที่น้ําตาของความโกรธไหลลงมาอาบแก้ม
ในใจของเธอกําลังสงสัยความกล้าของฟินนิค ทําไมเขาถึงพูดว่าฉันไม่ดีพอ? ฉันไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ มันไม่ยุติธรรม! อีก อย่าง นี่ฉันต้องออกไปจากเมืองซันไซน์หลังจากที่กลับไปจริงๆ งั้นเหรอ?
เธอสั่นสะท้านอยู่ในใจเมื่อเธอนึกย้อนไปถึงตอนที่ฟินนิคขู่เธอ “อย่าบังคับให้ผมต้องทําอะไรรุนแรง” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิธีการ แทรกแซงของฟินนิคจะสามารถขับไล่ชาร์ล็อตออกไปจากเมืองซันไชน์ได้อย่างง่ายดาย อีกอย่างเขายังสามารถทําให้วงการสื่อ
ทั้งหมดคว่ําบาตรเธอได้ด้วย
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ชาร์ล็อตก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม เธอแค่พยายามหาสามีในอุดมคติเท่านั้นเอง ทําไมจุดจบมันถึงได้น่าสมเพช
แบบนี้?
ฟินนิคกลับมาถึงจุดตั้งแคมป์ด้วยสีหน้าแข็งกระด้าง เขาไม่สนใจเธอที่เดินร้องไห้ตามหลังเขามา
เมื่อคนอื่นๆ เห็นพวกเดินกลับมาจากที่ไกลๆ พวกเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ พวกเขารีบเดินเข้าไปแล้วถามว่า “คุณ นอร์ตันทําไมคุณถึงไปตักน้ํานานจัง? แล้วชาร์ล็อตอยู่ไหน?”
“ใช่คุณนอร์ตัน คุณหายไปนานมากจนทุกคนเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณหรือเปล่า พวกเราถึงกับแบ่งกลุ่มออกไปตามหา แต่ก็ไม่พบพวกคุณเลย มันทําให้ทุกคนเกือบเป็นบ้า”
ฟินนิครู้สึกผิดทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงของทุกคนที่อยู่รอบตัว “ตอนที่เราเดินกลับมาบังเอิญน้ําหกหมดเลยถึงได้กลับมาข้า กว่าที่คิดเอาไว้ ผมต้องขอโทษที่กลับมาช้าจนทําให้ทุกคนต้องเป็นห่วง”
“ไม่เป็นไร พวกคุณปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว” ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มปลอบใจขณะที่โบกมือบอกเขาว่าไม่เป็นไร พวกเขารู้สึก ปลาบปลื้มหลังจากที่เห็นเจ้านายของพวกเขาอธิบายพร้อมกับขอโทษ “จะว่าไปแล้วชาร์ล็อตอยู่ที่ไหน? เธอไม่ได้ไปกับคุณเหรอ?
ทําไมเธอถึงไม่ได้กลับมาพร้อมคุณ?”
สีหน้าของฟินนิคมืดครึ้มทันทีเมื่อมีคนพูดถึงชาร์ล็อต เขาตอบด้วยน้ําเสียงเย็นขาว่า “เธอกําลังเดินมาคงจะมาถึงเร็วๆ นี่แหละ”
เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดของฟินนิคทุกคนก็ครุ่นคิดด้วยความสงสัย พวกเขาทะเลาะกันงั้นเหรอ? แต่ว่า
ทําไมพวกเขาถึงทะเลาะกัน? ฉันไม่น่าเป็นไปได้
แม้ว่าพวกเขาจะคิดเหมือนกันแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะถามฟินนิคว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นเจ้านายของทุกคน
“คุณมอร์ริสันอยู่ที่ไหน?” ฟินนิคถามขึ้นมา เขามองไปรอบๆ แต่กลับไม่เห็นวิเวียน
“หลังจากที่พวกคุณจากไป ซาร่าห์ก็ออกไปเก็บฟื้นคนเดียวตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย ก่อนหน้านี้พวกเราพยายามออกตามหาเธอ แต่ก็ไม่พบ จากนั้นวิเวียนก็รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของซาร่าห์เพราะไม่อาจบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวที่อยู่คน เดียวหรือเปล่า ดังนั้นเธอกับแขนนอนจึงออกไปตามหาซาร่าห์อีกครั้ง”
“ไปกันแค่สองคนเหรอ?” สีหน้าของฟินนิคเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“ใช่ค่ะ” แคโรลีนพยักหน้า “วิเวียนกลัวว่าถ้าพวกเราออกไปกันหมดจะเกิดอันตรายอะไรขึ้นมา เธอจึงบอกให้พวกเรารออยู่ที่นี่ และเธอก็ออกไปกับแชนนอน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ความรู้สึกรําคาญในใจของฟินนิคก็พลุ่งหล่านขึ้นมา ห่วงแต่ความปลอดภัยของคนอื่นทุกที…ทําไมไม่รู้จักห่วงตัว เองบ้าง! เธอต้องทําให้ฉันเป็นห่วงตลอดเวลางั้นเหรอ?
ฟินนิคยิ่งรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นเพราะเขารอมาเกือบสิบนาทีแล้ว เมื่อเห็นว่าวิเวียนยังไม่กลับมาเขาก็รอไม่ได้อีกต่อไป แต่ก่อนที่
เขาจะรวบรวมให้ทุกคนออกไปตามหา เขาก็เห็นแคโรลีนเดินอย่างร้อนรนไปที่ไหนสักแห่ง
“ซาร่าห์เธอหายไปไหนมา? ทําไมเธอใช้เวลานานจังกว่าจะกลับมาได้?” แคโรลีนถาม เธอรีบเดินไปอยู่ข้างๆ ซาร่าห์สีหน้าเต็มไป ด้วยความรู้สึกผิดและเป็นห่วง การหายตัวไปของซาร่าห์คงทําให้เธอเป็นกังวลมากจริงๆ
“ฉันคิดว่าจะออกไปเก็บฟืนใกล้ๆ แถวนี้แต่ฉันคนบังเอิญหลงทาง ฉันหาทางกลับมาไม่เจอ ฉันเดินเลี้ยวไปผิดทางอยู่สองสามครั้ง แล้วก็เริ่มเดินหลงไปเรื่อยๆ ฉันใช้ความพยายามอยู่หลายครั้งในที่สุดฉันก็กลับมาได้” ซาร่าห์อธิบายขณะที่กอดปืนอยู่ในอ้อม
แบ
ก่อนหน้านี้แขนนอนบอกว่าเธอได้ยินเสียงซาร่าห์ร้องขอให้ช่วยเหลือ นั่นทําให้แคโรลีนรู้สึกเป็นห่วงเธอจึงสํารวจซาร่าห์ตั้งแต่ ศีรษะจรดปลายเท้าเพื่อดูว่าอีกฝ่ายบาดเจ็บหรือไม่ “เธอไปเจอเรื่องอะไรมาหรือเปล่า? ได้รับบาดเจ็บอะไรบ้างไหม?”